แม่น้ำตรังเป็นทั้งแหล่งท่องเที่ยวและแหล่งสร้างรายได้ของชาวบ้านริมน้ำตรัง ที่ยึดอาชีพตกกุ้งแม่น้ำขาย สร้างรายได้เป็นอย่างงามกว่า 3 หมื่นบาทต่อเดือน บางคนก็มากกว่า 3 หมื่น อีกทั้งชาวบ้านยังทำทริปท่องเที่ยวให้ผู้ที่สนใจอยากสัมผัสวิถีชีวิตของคนในชุมชนนั่งเรือตกกุ้งอีกด้วย ถือเป็นแหล่งทำมาหากินเลี้ยงครอบครัวของชาวบ้าน 4 ตำบลริมแม่น้ำตรังกันเลยทีเดียว เรียกได้ว่าวิถีชีวิตริมแม่น้ำตรังน่าสนใจมากๆ
โดยวิถีชีวิตชาวบ้าน 4 ตำบลริมแม่น้ำตรัง ยึดอาชีพตกกุ้งขาย สร้างรายได้งาม บางคนมากกว่า 3 หมื่นต่อเดือน ทั้งยังทำเป็นทริปท่องเที่ยว เผยเหมือนมีโฉนดที่ดินทำกินหาเลี้ยงครอบครัวได้ตราบชั่วลูกหลาน วอน “อย่าทุบหม้อข้าว อย่าวางยาเบื่อ”…
วันที่ 30 พ.ค. 60 ผู้สื่อข่าวไทยรัฐได้ลงพื้นที่พบชาวบ้านริมแม่น้ำตรัง 4 ตำบล ประกอบด้วย ต.ย่านซื่อ ต.โคกยาง ต.คลองลุ และ ต.บางหมาก อ.กันตัง ที่ยึดอาชีพตกกุ้งขาย ทำกันเป็นล่ำเป็นสันสร้างรายได้อย่างงาม เป็นอาชีพของคนในท้องถิ่นที่สืบทอดกันมาตั้งแต่บรรพบุรุษ
จากนั้นได้ลงเรือไปพร้อมกับ นายนพดล หรือ ไต๋ต้น หงส์เกิด อายุ 38 ปี ก่อนจะพบกับบรรดานักตกกุ้งมืออาชีพอย่าง ไต๋จำนูญ เทือกทัก อายุ 43 ปี ชาวคลองลุ ไต๋อำนวย เกิดดี อายุ 48 ปี เป็นชาวโคกยาง ไต๋สมชาย หรือ ไต๋อ๊อด ความเพียร อายุ 58 ปี และ ไต๋มานิต ทับทอง อายุ 37 ปี เป็นชาวย่านซื่อ บางรายเพิ่งเสร็จจากงานประจำกรีดยาง แล้วก็นำเรือหางยาว เรือท้องแบน มุ่งสู่แม่น้ำตรังตกกุ้งขาย ทั้งกุ้งแม่น้ำ กุ้งก้ามกราม กุ้งนาง มีออเดอร์จากร้านอาหาร และโรงแรมในตัวเมือง สั่งจองเข้ามาไม่พอส่งขาย สร้างรายได้อย่างงามเลี้ยงครอบครัวได้สบาย สนนราคาตั้งแต่ กก.ละ 380 บาทเป็นไซส์เล็ก ไซส์กลาง กก.ละ 500 บาท และไซส์ใหญ่ 650 บาท วันไหนดวงดี น้ำดี ตกได้ตัวใหญ่น้ำหนัก 5 ขีดขึ้น หรือ 2 ตัว/กก.จะได้ราคาสูง
นายนพดล หรือ ไต๋ต้น ยอดฝีมือตกกุ้งแห่งหมู่บ้านย่านซื่อ ที่ถึงแม้จะเปิดร้านมือถือ และร้านแต่งรถจักรยานเก่า แต่สุดท้ายหันมาตกกุ้งแม่น้ำขายยึดเป็นอาชีพ กล่าวว่า “ผมไม่ใช่มืออาชีพ แต่ทำเป็นอาชีพ ผมรักการตกกุ้ง รักแม่น้ำตรัง ผมเองไม่ได้โลกสวย อย่างกรณีตกได้กุ้งขนาดเล็กหรือกุ้งที่ติดไข่ก็ปล่อยคืนไปสู่ธรรมชาติ และตั้งปณิธานเอาไว้จะไม่หากินแบบผิดวิธี ชาวบ้านที่อยู่ในละแวกนี้น่ารักมาก มีอุดมการณ์ หากมีเรือเข้ามา แปลกหน้าหรือทำประมงแบบผิดวิธีก็จะเข้าไปตักเตือน”
ไต๋ต้น กล่าวอีกว่า แม่น้ำตรังค่อนข้างอุดมสมบูรณ์ แต่สิ่งที่น่ากลัวคือ กลัวชาวบ้านหากินผิดวิธี สำหรับอาชีพตกกุ้งสามารถเลี้ยงครอบครัวได้แต่ต้องมีความขยัน ต้องให้เวลามันสักนิด สามารถเลี้ยงครอบครัวได้เลยลูกค้าส่วนใหญ่ที่สั่งกุ้งจะเป็นลูกค้าประจำ กลุ่มเพื่อน กลุ่มผู้ประกอบการร้านอาหาร โรงแรม จะสั่งแบบระบุไซส์ บางร้านไซส์ใหญ่ บางร้านไซส์กลางอยู่ประมาณ 8-10 ตัว/กก. ตลาดไซส์ขนาดกลางค่อนข้างดี แต่กุ้งมีไม่เพียงพอต่อความต้องการของลูกค้าตามออเดอร์ที่สั่งมา รายได้ต่อเดือนก็ตกประมาณ 30,000-35,000 บาท
นอกจากตกกุ้งขายแล้ว ยังเปิดให้นักท่องเที่ยวทั้งในและต่างจังหวัดจองทริปผ่านเฟซบุ๊ก ชื่อ “Noppadol Hongkerd” พามาตกกุ้งในแม่น้ำตรัง ทั้งทริปไปเช้าเย็นกลับและทริปกลางคืน มีบริการเช่าเรือ เช่าเบ็ด พร้อมอุปกรณ์ มีเตาย่าง ลังน้ำแข็ง เพาเวอร์แบงก์
สำหรับกุ้งแม่น้ำตรัง ส่วนหนึ่งเกิดจากธรรมชาติ อีกส่วนหนึ่งเกิดจากกรมประมงปล่อยพันธุ์กุ้งลงแม่น้ำทุกปีเพื่อขยายพันธุ์ ซึ่งปีนี้กรมประมงได้ปล่อยลูกพันธุ์กุ้ง จำนวน 10 ล้านตัว นอกจากตกกุ้งแล้ว ชาวบ้านในท้องถิ่นแห่งนี้จะรวมตัวกันหารายได้เสริม ด้วยการจัดทริปให้บริการนักท่องเที่ยวพาชมวิถีชีวิตที่ต้องพึ่งพิงธรรมชาติ อาศัยสายน้ำในการดำรงชีวิต ชาวบ้านบอกว่าพื้นที่ตรงนี้เปรียบเสมือนโฉนดที่ดิน เป็นหม้อข้าว เป็นอาชีพที่จะยังคงทำต่อไปได้อีกยาวนานตราบชั่วลูกชั่วหลาน ขอแค่อย่าทุบหม้อข้าว ไม่วางยาเบื่อ หากินอย่างถูกวิธี ที่สำคัญคนที่นี่มีน้ำใจช่วยเหลือแบ่งปันกัน อัธยาศัยดี มีแต่รอยยิ้ม
สำหรับใครที่สนใจสั่งซื้อกุ้งหรืออยากจองทริปตกกุ้งแม่น้ำ นั่งเรือตกกุ้งที่แม่น้ำตรังลองเข้าไปจองได้ที่เฟซบุ๊คด้านล่างนี้ได้นะคะ ดูรูปแล้วน่าไปมากๆค่ะ ธรรมชาติสบายตาสุดๆ แถมกุ้งตัวใหญ่มากอีกด้วย ใครที่เคยไปแล้วมาแชร์ประสบการณ์ให้ลูกหมีดูกันด้วยน๊า ไว้มีโอกาสคงต้องไปสักครั้ง แฮ่ๆ
ขอขอบคุณที่มาและรูปภาพจาก : ไทยรัฐ และ Noppadol Hongkerd